ด่วน วิกฤติหน้าด่าน! รถบรรทุก–ชาวกัมพูชาติดค้างกว่า 100 คัน ด่านบ้านแหลมโกลาหล ฝั่งกัมพูชายัง ให้ผ่านเฉพาะ ปชช.และ จยย.

จันทบุรี – วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 14.30 น. ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เกิดเหตุโกลาหลขึ้นบริเวณหน้าด่าน หลังด่านฝั่งประเทศกัมพูชาปิดประตูโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ส่งผลให้รถบรรทุกสินค้ากว่า 100 คัน และประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมากติดค้างบริเวณประตูด่าน

โดยปกติด่านฝั่งกัมพูชาเปิดตั้งแต่เวลา 09.00–16.00 น. และฝั่งไทยเปิดตั้งแต่ 08.00–16.00 น. แต่ในวันนี้ ช่วงเวลาประมาณ 10.50 น. ประตูฝั่งกัมพูชากลับปิดกะทันหัน ทำให้รถขนส่งสินค้าประมาณ 60 คันต้องจอดค้างบริเวณหน้าด่าน เจ้าหน้าที่ไทยจึงตัดสินใจเปิดประตูเพื่อระบายรถชั่วคราวประมาณ 10–20 นาที ก่อนจะปิดตามเดิม

ต่อมา เวลา 12.33 น. ผู้กำกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านบ้านช่องโดง ต.บึงรัง อ.ก็อมเรียง จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา ได้ขอข้ามมายังฝั่งไทย เพื่อตรวจดูปริมาณรถและประชาชนชาวกัมพูชาที่ติดค้าง โดยมี พ.ต.ท.ฤชุภัทร หลาวทอง สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี ให้การต้อนรับและร่วมประสานงาน

กระทั่งเวลา 15.00 น. สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด เมื่อรถบรรทุกสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 100 คัน ขณะประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมากยังรอการเปิดด่าน ท่ามกลางความไม่แน่นอนของฝั่งกัมพูชา

ผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง และ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระตะบอง ได้เดินทางมายังบริเวณประตูหน้าด่านเพื่อประชุมปรึกษาหารือแนวทางการจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน หัวหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี ได้ลงพื้นที่สำรวจผลกระทบด้านเศรษฐกิจ พบว่าส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุกสินค้าการเกษตร ได้แก่ ผักและผลไม้ ซึ่งต้องส่งออกตามกำหนดเวลา หากล่าช้าอาจเกิดความเสียหายต่อคุณภาพและราคาสินค้า

เวลา 15.07 น. ประตูฝั่งกัมพูชามีการเปิดอีกครั้ง เพียง 5 นาที แล้วปิด โดยอนุญาตให้รถจักรยานยนต์ของชาวกัมพูชาเข้าไปได้บางส่วน ก่อนจะปิดตามเดิม ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดและความสับสนของผู้ที่ยังรอคอยอยู่หน้าด่าน

สถานการณ์ยังคงต้องจับตาใกล้ชิด โดยเฉพาะแนวโน้มการเปิด–ปิดด่านฝั่งกัมพูชาว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อใด ขณะหน่วยงานไทยยังคงให้ความช่วยเหลือประชาชนเต็มที่