ทราย สก๊อต เปิดใจ ยุติหน้าที่ แจงไม่ได้แรง แค่สอนไม่ใช่ใครจะทำอะไรก็ได้ในประเทศไทย


การพัฒนาพื้นที่บนฝั่งสำคัญมาก ตรงนี้ได้เอามาพูดด้วยหรือไม่ ซึ่งความเสียหายของทรัพยากรทุกวันนี้ ยืนยันว่าการพัฒนาบนฝั่ง ทำให้ทรัพยากรเราเสียหายโดยเฉพาะเกาะต่างๆ ที่เป็นพื้นที่ทรัพยากรสมบูรณ์ เราปล่อยให้สร้างโรงแรม เกาะนั้นจะไม่เหลืออะไรเลย อย่างเกาะสิมิลัน ปะการัง อาจจะ 3-4 ปี ตายครั้งหนึ่ง เกิดจากการฟอกขาวที่มีปัจจัยในเรื่องกระแสน้ำ ไม่ใช่เกิดจากนักท่องเที่ยวอย่างเดียว

ดังนั้น การที่เรามีทรัพยากร แล้วเราขายการท่องเที่ยว ตนว่าต้องละเอียดอ่อนมากกว่านี้ เราก็ไม่อยากให้ต่างชาติหรือคนใดคนหนึ่งมาทำลาย


นายสุทา กล่าวว่า การที่นายสิรณัฐพูด ก็ถูกต้องว่าปัจจุบันมีไกด์เถื่อนที่อ้างว่าเป็นนักท่องเที่ยวแล้วมาประกอบอาชีพ แย่งอาชีพคนไทยเป็นเรื่องจริง ซึ่งสิ่งที่นายสิรณัฐทำมีเรื่องดีเยอะแยะ ไม่ใช่ว่าจะไปตำหนิเขาในส่วนนี้ แต่บางทีเอาความไม่จริงไปโพสต์ ซึ่งมีบางบริษัทมาเล่าให้ตนฟังว่าเขาอึดอัด และมีการฟ้องร้องกันด้วย เช่น การเอาภาพที่มีการไปจับปลาในน้ำ

เราตรวจสอบแล้วเป็นไกด์จีน แต่เขาเอาภาพนี้ไปรวมกับบริษัทหนึ่งว่าบริษัทนี้ไม่ควบคุมนักท่องเที่ยว มีการไปจับเต่าและปลาปักเป้า เป็นการบิดเบือนความจริง ทางบริษัทดังกล่าวขอให้ลบภาพนั้นแต่ปัจจุบันเขายังไม่ลบเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวบ้านอึดอัด

“พูดง่ายๆ ว่าตระกูลเขาค่อนข้างจะมั่งมี ทำให้ชาวบ้านอึดอัดว่ามีเส้นใหญ่ แล้วทำอะไรไม่ได้ อย่างพฤติกรรมบางทีเขาไปหิ้วนักท่องเที่ยวขึ้นมาในลักษณะค่อนข้างรุนแรง แต่ผมยังไม่เห็นด้วยตา ตรงนั้นชาวบ้านเขาคิดว่าน่าจะมีผลกระทบกันเยอะ และการที่เขาจะโพสต์อะไร มันต้องได้รับความยินยอมและเห็นชอบจากหัวหน้าอุทยานฯ ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่อุทยานฯ” นายสุทา กล่าว


นายสุทา กล่าวว่า ทั้งนี้ ตนมองว่าหัวหน้าอุทยานฯ เขาก็กลัวนายสิรณัฐด้วยหรือไม่ ถ้าตำแหน่งที่ปรึกษาอย่างเดียว เขาไม่น่ากลัวอะไร แต่อาจจะกลัวตำแหน่งสถานะทางสังคมของตระกูลของเขา อย่างไรก็ตาม นายสิรณัฐอยากอนุรักษ์ ชาวบ้านเขาก็ชื่นชมและเป็นเรื่องดี

ตนก็ทำมาทั้งชีวิตในเรื่องการอนุรักษ์ แต่อย่างที่นายสิรณัฐพูดว่าบางทีเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่บางคนก็ทุจริตมันก็มี นายสิรณัฐไม่ได้พูดผิด ยืนยันว่าสิ่งที่นายสิรณัฐทำไว้และเป็นเรื่องดีมีเยอะ แต่มีเรื่องเดียวคือการปฏิบัติระหว่างตัวบุคคล


ผู้สื่อข่าวถามว่ายังต้องการให้นายสิรณัฐ ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับกรมอุทยานฯ ต่อหรือไม่ นายสุทา กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจของตัวเขาเอง ถ้าหากเขากลับมาในลักษณะที่อะลุ่มอล่วย ปฏิบัติตัวเป็นมิตรกับทุกคน ไม่ไปเหยียดเขา

ตนคิดว่าทุกคนก็ยินดี ฟังเสียงจากผู้ประกอบการเขาก็ไม่ได้เกลียดชัง แต่ตอนนี้มันมีผลกระทบกับเขา มันจึงเกิดการต่อต้านขึ้นมา แต่ถ้าเขาทำในเรื่องที่ถูกต้อง ตนคิดว่าไม่มีใครปฏิเสธ เพราะสิ่งที่เขาตั้งใจเป็นเรื่องดี

สิ่งที่เขาควรปรับตัวหากกลับมาทำงานด้านการอนุรักษ์ต่อ คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องการพูด ซึ่งเขาพูดเอาดีใส่ตัวเขา สร้างตัวเองให้มีอะไรขึ้นมาว่าเขาเป็นนักอนุรักษ์ ซึ่งสิ่งนั้นมันเกิดผลกระทบต่อจิตใจคนอื่น ตนทำเรื่องอนุรักษ์มาครึ่งชีวิต รวบรวมชาวบ้านอนุรักษ์ป่าชายเลน ภูเก็ต เพิ่มขึ้นมาเป็นพันๆ ไร่ เราเอาชาวบ้านเข้ามาจากการที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่รัฐขัดแย้งกัน แต่สุดท้ายก็มารวมกลุ่มกันได้

เรื่องนี้ต้องใช้ความเอื้ออารีต่อกันจึงจะทำงานอนุรักษ์ได้ ถ้าเกิดความขัดแย้ง ความโกรธ ไม่มีทางสำเร็จ เพราะจะทำให้